Tuesday, August 27, 2013

Movie Review: Any Day Now (2012) - USA

Any day now (2012): Nobody died but i cry. In 1970s, Gender discrimination is commonly found! 
Rudy and Paul are falling in love and have the secret relationship. 
Their relationship against with the family law. 
Rudy wants to adopt Macro who is the Junkie woman's son next door. 
Gay family can be treat a boy, that is a question for 1970s. 
Parent's identity have effected to adopted child or not? 
Macro is a retard boy but he can learn to love, care and adore. 
The end of this movie never ending. Prove it!!


ย้อนกลับไปในยุคปี 1970s Rudy นักแสดงลิปซิงค์โชว์ในบาร์เกย์ผู้ซึ่งเช่าห้องอยู่ติดกับ Macro 

เด็กหนุ่มวัยรุ่นดาวน์ซินโดรมที่าศัยอยู่กับแม่ขี้ยา Mariana 
การคบกันแบบเปิดเผยระหว่าง Rudy และ Paul ทนายผู้ต้องการโลกใบใหม่ไม่ง่ายเลย 
ทั้งเรื่องงาน เรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน และเรื่องชีวิตส่วนตัว 
การที่ Macro ถูกทิ้งไว้ในห้องเช่าภายหลังแม่ขี้ยาถูกจับเข้าคุก 
เป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งในการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งคำว่าครอบครัวใหม่ 
ระหว่างการดำเนินเรื่องช่วงแรกอิ่มเอมไปกับคำว่าครอบครัว
ซึ่งมี Rudy และ Paul คอยดูแลเอาใจใส่ Macro เหมือนลูกของพวกเค้าเอง 
แต่เป็นไปในเงื่อนไขของการปดปิดความสัมพันธ์ของกันและกันต่อสังคมภายนอก 
เพื่อไม่ให้ขัดต่อกฎหมายและจารีตของยุคนั้น

Macro เป็นเด็กผู้ชายที่สามารถรับรู้ทุกคำพูด ทุกสีหน้าท่าทางและอารมณ์ของคนรอบตัวเค้าได้ดี 
ส่วนจะเข้าอย่างลึกซึ้งหรือไม่นั้น ไม่มีการคาดเดาได้ 
แต่สิ่งหนึ่งซึ่งเห็นได้ชัดคือการรับความรู้สึกของ Rudy และ Paul ซึ่งคงไม่ต่างจากรักแบบไม่มีเงื่อนไข การถ่ายทอดอารมณ์ของ Rudy ต่อ Macro ทำให้คิดว่าพวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกันได้อย่างเหลือเชื่อ
ลืมไปก่อนเรื่องเกย์ และเรื่องเด็กไอคิวต่ำ

สิ่งสำคัญที่เป็นตัวบ่งบอกได้ถึงความเป็นครอบครัวที่ดีที่สุดคือสายใยรักระหว่างคนในครอบครัว 
ความรักและการดูแลเอาใจใส่ โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ 
ตุ๊กตาผู้หญิง ผู้ปกครองเกย์ เด็กชายดาวน์ซินโดรม IQ พันธุกรรม 
คงไม่ใช่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงต่อการเป็นครอบครัวที่พร้อมจะรักและดูแลกันและกัน 
หากแต่สังคม กฏหมาย การแพทย์ก็ยังเข้าไปล้อมกรอบการเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ (Perfect family)
โดยมิได้ตระหนักถึงความที่มันเป็นเพียงภาพมายา (Illusion) ของความเกลียดชัง
การต่อสู้ทางกฏหมายเริ่มต้นขึ้นเมื่อความสัมพันธ์ระหว่าง Rudy และ Paul ถูกเปิดโปง 
การดิ้นรนต่อสู้เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียครั้งนี้จึงเริ่มต้นขึ้น


ข้าพเจ้าเคยเข้าไปตอบคอมเม้นท์หนึ่งที่ถามว่า 
"ที่น่าสนใจคือ โตมาแล้ว จะเลือกเป็นเกย์เหมือนพ่อแม่หรือยังคงเป็นผู้ชายเหมือนเดิม" 
และ "แล้วสรุปลูกโตมาเป็นเพศที่สามรึเปล่าคะ?" 
คำตอบตอนนั้นคือ "ในเรื่องเด็กเป็นดาวน์ซินโดรมค่ะ เรื่องโครโมโซมเพศกะพัฒนาการทางสมอง
ก็น่าจะผิดปกติด้วย ส่งผลต่อการเรียนรู้และการฟอร์มเป็นบุคลิกภาพหลายๆอย่างค่ะ 
หนังน่าจะสื่อเรื่องความสุขของการเลี้ยงดู อยู่ด้วยกันมากกว่านะคะ" นี่คือสิ่งที่ข้าพเจ้ารู้สึกต่อหนัง


ถึงตอนนี้ข้าพเจ้าผิดอย่างนึงคือ เด็กดาวน์ซินโดรมมีพัฒนาการทางสมองในการเรียนรู้ที่ล่าช้าเท่านั้น 
เรื่องแรงขับทางเพศ (Sex drive) ยังคงมีอยู่ 
แต่ก็ขึ้นอยู่กับการถูกฝึกและพัฒนาให้เข้าใจและจัดการอารมณ์ที่เหมาะสม 
ในหนังข้าพเจ้ารู้สึกทึ่งในการแสดงออกของ Macro รับบทโดย Isaac Leyva 
กลับมาที่เรื่องการฟอร์มบุคลิกภาพ Macro ยังแต่งตัวเป็นผู้ชาย 
ลักษณะนิสัยหรือรสนิยมทางเพศหนังไม่ได้กล่าวถึง แต่มักจะติดตุ๊กตาผู้หญิงไว้กับตัวเสมอ 
ตุ๊กตาผู้หญิง (Doll) เป็นสัญลักษณ์แทนแม่ของ Macro 
เด็กยังไงก็ยังผูกพันกับคนที่คลอดตนเองออกมา และถึงแม้จะถูกเลี้ยงดูโดยไม่ใส่ใจ  
และแวดล้อมด้วยเพื่อนชายขี้ยาของแม่ ยาเสพย์ติด เพลงเฮฟวี่เมทัลร็อคหนักๆ 
และการไม่ได้รับการพัฒนาการศึกษาก็ตาม 
การกอด Doll จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ Macro ผ่านพ้นแต่ละวันต่อโลกภายนอก
และความมืดภายในห้องบนเตียงของบ้านเลี้ยงเด็กฉุกเฉิน

ข้าพเจ้าเชื่อเสมอและตลอดเวลาว่าการเป็นครอบครัวคือการดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน 
ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน เพื่อดำเนินไปถึงวาระสุดท้ายของชีวิต 
ไม่แปลกที่จะมีครอบครัวแบบใหม่เกิดขึ้น หญิง-ชาย เกย์-เกย์ เลส-เลส ตุ๊ด-ทอม FTM-MTF 
ครอบครัวเหล่านี้ประกอบขึ้นจากพื้นฐานความรักทั้งหมด 
การครอบคำว่าครอบครัวด้วยกฏหมายซึ่งปราศจากการมองภาพรวมและสิ่งใหม่ๆที่เกิดขึ้นในสังคม 
คือความล้มเหลวในการดูแลสิทธิของคนภายในประเทศ 
โลกใบนี้เปลี่ยนไปทุกวันๆ การยึดเหนี่ยวตัวเองไว้กับสิ่งหนึ่งคงไม่ใช่หลักของชีวิตมนุษย์สักเท่าใดนัก 
การที่มนุษย์มี Pre-frontal brain อาจเป็นสิ่งที่ตระหนักได้ว่าเราไม่ใช่ Sex machine 
การพัฒนาสังคมและโลกใบนี้น่าจะเป็นเหตุผลหลักของการมีสมองที่สัตว์อื่นๆยังไม่พัฒนาถึงขั้นนี้ได้
และยังทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์เป็นสายพันธุ์ที่ดูแลและขับเคลื่อนระบบนิเวศน์สิ่งต่างๆบนโลกใบนี้อยู่ได้ 
เชื่อในตนเอง เชื่อในความรัก และเชื่อเถอะว่าการเป็นครอบครัวไม่ได้หยุดอยู่เพียงชายและหญิงเท่านั้น
ความรัก ความเอาใจใส่ต่างหากที่หล่อหลอมความเป็นครอบครัวขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์

 ภาพประกอบภาพนี้จาก http://www.familleslgbt.org/youth.php?lang=en