Sunday, August 2, 2015

Movie Review: Jenny's Wedding (2015) - USA

Movie Review: Jenny's Wedding 


หนังเรื่องนี้ถูกตั้งแคมเปญเพื่อระดมทุนในการสร้างในเวบไซต์ โดยมี Katherine Heigl นักแสดงนำร่วมโปรโมทอย่างเข้มข้น จนกระทั่งได้ทุนสร้างโดยประมาณ 500,000 เหรียญและคลอดออกมาเป็นภาพยนต์ครอบครัวรักโรแมนติก (Rom Com) สู่สายตาผู้ชมทั่วโลกไปเมื่อ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมานี้



Jenny's wedding เป็นหนังที่ตรงไปตรงมาเหมือนชื่อเรื่อง เพราะทั้งเรื่องพูดถึงเรื่องการแต่งงานของ Jenny เพียวเลย ครอบครัวของ Jenny เคร่งศาสนาและตั้งอยู่เมืองเล็กที่คนในเมืองรู้จักกันอย่างทั่วถึง
ผู้เป็นพ่อและแม่พร่ำเสมอว่าเมื่อไหร่ Jenny จะแต่งงาน เพราะไม่เคยเห็นหรือแม้แต่ได้ยินชื่อผู้ชายคนไหนเลย นอกจาก Kitty รูมเมทที่สนิทกันมานานนมและ Kitty เป็นคู่หมั้นของเธอ ทั้งสองกำลังจะแต่งงานกัน เรื่องตลกร้ายเรื่องนึงระหว่าง Jenny และ Kitty คือทุกคนบนโลกนี้รู้หมดว่าเธอสองคนเป็นเลสเบี้ยนและเป็นคู่รักกัน ยกเว้นครอบครัวและเพื่อนบ้านของพ่อแม่ Jenny (แน่นอนครอบครัว Kitty รู้และยอมรับแต่โลเคชั่นอยู่ห่างไกลกันมาก ในหนังเป็นอย่างนั้น) ทั้งหมดเปลี่ยนไปเพราะความคาดหวังที่เปลี่ยนแปลง
Eddie ผู้เป็นพ่อที่ดำเนินชีวิตด้วยความเงียบขรึม 
การชี้นำและการกลับหลังหันต่อความเจ็บปวดที่มาเหนือความคาดหมาย
Rose แม่ที่คาดหวังให้ลูกสาวเป็นเหมือนเธอ ความฝัน ความคาดหวัง 
และการยึดติดกับความสมบูรณ์แบบ ทำให้ทั้งเธอและลูกสาวทั้งสองคนต่างเจ็บปวดกันเป็นหย่อมๆ
Anne น้องสาวไม้เบื่อไม้เมากับ Jenny เธอคิดว่าแม่และพ่อรักเธอน้อยกว่า Jenny 
เพราะ Jenny คือมิสเพอร์เฟค ช่วยไม้ได้ที่เธอจะขี้เม้าท์เรื่องพี่สาวเธอมากไปหน่อย


Jenny กลับมาเยี่ยมบ้านและกลับไปพร้อมกับข่าวกอสซิบเรื่องเธอกำลังคบกับผู้ชายที่แต่งงานแล้ว
คนกระพือข่าวคือ Annie ที่คิดเองเออเองจากประโยคสนทนาเพียงแว๊บเดียว
ทั้ง Eddie และ Rose กระวนกระวายใจและเป็นห่วง แต่ยังไม่เท่าตอนที่ Jenny บอกความจริงว่า 
"เธอเป็นเลสเบี้ยนและกำลังจะแต่งงานกับ Kitty" คนที่ถูกเข้าใจว่าเป็น Roomate มาตลอด 5 ปี
(ถ้าลูกคุณมี Roommate คนเดิมเกิน 2 ปี ให้ตระหนักได้เลยว่าลูกคุณกับรูมเมทกำลังคบกัน) 
และเป็นเรื่องอีกที่ Annie ผู้ที่รู้ทุกอย่างทีหลังสุดเห็น Jenny กับ Kitty จูบกันหน้าร้านชุดแต่งงาน 
หลังจากทุกคนในครอบครัวรู้หมดแล้ว Jenny เลือกที่จะเดินหน้าสร้างครอบครัวของเธอต่อไป 
แม้ในวันงานจะไม่มีครอบครัวเธอก็ตาม


ถึงแม้ว่าจะถูกคอมเม้นท์อย่างหนาตาและหนาหูว่าตอนจบก็เหมือนเดิม เป็นพล็อตที่รู้ๆกันอยู่แม้ไม่ต้องดู Trailer ก็ตาม และหลังจากดู Trailer ยิ่งถูกคอมเม้นท์หนักว่าทั้งหมดในหนังอยู่ใน Trailer ไปแล้ว บอกตามตรงว่าส่วนตัว Bias เรื่องนี้เพราะด้วยความเกย์ของเรื่อง ฝีมือการแสดงซีนอารมณ์ของ Katherine Heigl ตาสีฟ้าบวกกับหน้าตาจิ้มลิ้มของ Alexis Bledel ทำให้เฝ้ารอเรื่องนี้อย่างใจจดจ่อ 
สารภาพเลยว่าขำขณะนั่งดูซีนอารมณ์ พล่ามไม่หยุดตอนเลิฟซีน และร้องไห้ตอนเห็นคนเป็นพ่อแม่ต่อสู้กับคนอื่นแม้กระทั่งเพื่อนสนิทของตัวเองเพื่อลูกสาว ฉากส่วนใหญ่หวานแบบคลาสสิคดิบ ไม่พาสเทล ไม่เรโทร นั่นทำให้ผู้ชื่นชอบความดิบแบบเราดูได้อย่างสบายตาและสบายอารมณ์ และสุดท้ายหนังดึงให้เห็นว่า Annie ไม่ใช่ยัยตัวร้ายสักหน่อย เธอแค่เหนื่อยและต้องการความรักเพียงเท่านั้นเอง ถึงแม้จุดบอดของเรื่องคือเคมีระหว่าง Katherine Heigl กับ Alexis Bledel จะไม่ดึงดูดกันเลยก็ตาม อาจเพราะความ Bitch สมัยก่อนในชีวิตจริงของ Katherine หรือเปล่าไม่ทราบได้


แม้จะเป็นหนังรักโรแมนติกสไตล์ Imagine you&me หวานๆนัวๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าพล็อตอาจจะตรึงคนดูได้ไม่เท่ากัน เราทราบกันได้อยู่แล้วว่าการเป็นเกย์ไม่ใช่สิ่งที่ผิด และคนเป็นพ่อแม่ยังไงก็รักลูกวันยังค่ำ
และตอนจบมันก็เป็นแบบที่เราหวังๆกันอยู่แล้ว แต่ความน่าสนใจของ Jenny's wedding อยู่ที่บทพูดที่สะท้อนสิ่งที่อยู่ในหัวของแต่ละฝ่ายได้ลึกและถูกต้อง ดังเช่นบทพูดเหล่านี้ 
"พ่อนั่งอ่านหนังสือพิมพ์จิบกาแฟทุกวัน นึกถึงภาพลูกแต่งงานกับผู้ชายที่ดีมีครอบครัวสมบูรณ์มาตลอด จู่จู่ลูกจะมาให้เปลี่ยนแบบนั้นเขาทำไม่ได้ มันเป็นชีวิตประจำวันของเขาไปแล้ว"
หรือ "นึกภาพผู้หญิงสองคนอยู่บนเตียงสิ มันจะเป็นอะไรไปได้นอกจากหนังโป๊ล่ะ"
แม้กระทั่งบทพูดของคนเป็นลูก "พ่อบอกเองไม่ใช่หรอว่าเมื่อเจอคนที่ใช่แล้วจะรออะไรล่ะ พอลูกเจอคนนั้นและบอกพ่อไปให้ร่วมแสดงความยินดี พ่อกลับเดินหันหลังและละทิ้งลูกไว้กับความเจ็บปวดเพียงเพราะว่าเขาเป็นผู้หญิง"


บทสนทนาซีนอารมณ์ค่อนข้างเยอะและเป็นเมนหลักในการดำเนินเรื่อง เพราะนี่เป็นเรื่องของการต่อสู้กับตัวเอง ครอบครัว และคนรอบข้างเพื่อให้เข้าใจและยอมรับความจริง ความรักมักมาพร้อมกับความสุขและความเจ็บปวด มันเป็นไปตามระบบของมัน เมืองเล็ก ฉากไม่กี่สถานที่ ย่านการค้า บ้าน Addie และ Rose บ้าน Annie และอพาร์ทเมนต์ Jenny กับ Kitty รวมถึงบรรยากาศหน้าหนาวเข้ากันอย่างนัวดี

ปล. เราเป็นคนฝันหวานเรื่องนี้จึงเรียกได้ว่าถูกใจ สำหรับบางคนอาจจะรู้สึกเลี่ยนหรือน่าเบื่อในช่วงแรก
แต่พัฒนาการของตัวละคร Eddie, Rose และ Annie นั้นชวนติดตามไม่แพ้กัน ลองชมดูด้วยหัวใจที่เปิดกว้างแล้วจะพบว่าความหวานละมุนได้ค่อยๆเข้าไปอยู่ในหัวใจของคุณทีละนิดแล้ว